สูตรการเดินเงินบาคาร่าแบบ Fibonacci และ Martingale ใช้เมื่อไหร่จึงได้ผลจริง?

สูตรเดินเงินบาคาร่ายอดฮิต

เมื่อพูดถึงเกมไพ่บาคาร่า ผู้เล่นส่วนมากมักจะอาศัยดวงเป็นหลัก ซึ่งมันไม่ได้จริงเสมอไป แต่การวางแผนเดินเงินอย่างเป็นระบบต่างหากคือปัจจัยสำคัญที่จะเพิ่มโอกาสในการทำกำไรระยะยาว เราจะมาเจาะลึก 2 สูตรการเดินเงินยอดนิยมอย่าง Fibonacci และ Martingale ว่าแตกต่างกันอย่างไร ควรใช้สูตรไหนในสถานการณ์ใด

ทำความเข้าใจก่อนเริ่มเล่น

เข้าใจแก่นของการเดินเงินก่อนลงสนาม

การเดินเงินคือกลยุทธ์ที่กำหนดยอดเดิมพันแต่ละตาขึ้นหรือลงตามผลลัพธ์ที่ได้ในรอบก่อนหน้า โดยมีเป้าหมายในการควบคุมทุน สร้างโอกาสถอนทุน และทำกำไรในจังหวะที่เหมาะสม

  • ควบคุมความเสี่ยงไม่ให้เงินหมดเร็ว
  • ช่วยตามทุนคืนในจังหวะขาดทุน
  • เพิ่มผลตอบแทนเมื่อมีจังหวะชนะต่อเนื่อง
สูตรเดินเงิน Fibonacci

สูตรเดินเงิน Fibonacci ค่อยเป็นค่อยไปแต่มั่นคง

เป็นสูตรเดินเงินที่อ้างอิงจากลำดับตัวเลขชื่อดัง (0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, …) โดยทุกตัวเลขใหม่จะเท่ากับผลรวมของ 2 ตัวก่อนหน้า

  • ลดความเสี่ยงได้ดีกว่า Martingale
  • ใช้เงินทุนน้อยกว่าหลายเท่า
  • เหมาะกับช่วงที่ผลลัพธ์สลับไปมา
  • ต้องจดจำลำดับหรือมีตารางช่วยในการแทง
  • ถ้าแพ้ติดหลายตาอาจตามทุนได้ช้า

วิธีใช้

  1. เริ่มต้นเดิมพันที่ยอดต่ำที่สุด
  2. หากแพ้ ให้แทงทบตามลำดับ (1 → 2 → 3…)
  3. หากชนะ ให้แทงถอยกลับมาที่เลข 2 และลดลงมาตามลำดับ
สูตรเดินเงิน Martingale

สูตรเดินเงิน Martingale เสี่ยงสูงแต่จบรอบไว

กลยุทธ์คลาสสิกที่นิยมใช้ในการเดิมพันทุกรูปแบบ โดยมีหลักการง่าย ๆ “ถ้าแพ้ ให้แทงทบเป็น 2 เท่า”

  • ตามทุนกลับมาได้เร็วมาก
  • มีกำไร 1 หน่วยทุกครั้งที่ชนะ
  • ต้องใช้ทุนสูงมากในกรณีแพ้ต่อเนื่อง
  • เสี่ยงชนเพดานของโต๊ะ (table limit)

วิธีใช้

  1. เริ่มต้นเดิมพันขั้นต่ำ
  2. ถ้าแพ้ ให้แทงทบเป็น 2 เท่า
  3. ถ้าแพ้อีก ให้แทงทบเป็น 4 เท่า
  4. ถ้าชนะ ให้กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ควรใช้สูตรในอย่างไร

ควรใช้สูตรไหน เมื่อไหร่ ถึงจะเห็นผลจริง?

  • แพ้-ชนะ สลับไปมา Fibonacci ลดความเสี่ยง สะสมกำไรแบบค่อยเป็นค่อยไป
    เจอเค้าไพ่มังกร (แพ้ติดหลายตา) Martingale ทบเพื่อเอาทุนคืนไว แต่ต้องทุนหนาพอ
  • มีทุนจำกัด Fibonacci ประหยัดทุน คุมความเสี่ยงได้ดีกว่า
  • มีทุนมาก + เจอจังหวะดี Martingale บวกเร็วในไม่กี่ไม้

เคล็ดลับเสริมก่อนใช้สูตรทั้งสองแบบ

  • อย่าลืม “หยุด” ให้เป็น รู้ว่าเมื่อไหร่ควรพอ ทั้งตอนกำไรและตอนขาดทุน
  • ใช้ควบคู่กับการอ่านเค้าไพ่ เช่น เค้าไพ่มังกร หรือปิงปอง จะช่วยให้ตัดสินใจได้แม่นขึ้น
  • จิตใจต้องนิ่ง อย่าปล่อยให้ความโลภหรือความหัวร้อนมาทำลายแผนที่วางไว้
มองรูปเกมให้ชัดแล้วจัดเลย

มองให้ชัด เลือกให้เป็น แล้วการเดินเงินจะพาคุณทำกำไรแบบยั่งยืน

สูตร Fibonacci และ Martingale ต่างมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง อยู่ที่ว่าเราจะใช้มัน “ถูกจังหวะ” แค่ไหน เพราะไม่มีสูตรใดการันตี 100% แต่ถ้าเข้าใจโครงสร้างของทั้งสองระบบ เดินเกมตามแผน มีวินัย และรู้จักหยุดให้ถูกเวลา ก็จะสามารถใช้การเดินเงินเป็นอาวุธที่ทรงพลัง ทำกำไรได้แบบยั่งยืน